วันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

วันตุษจีน

วันตรุษจีน 2558

การไหว้เจ้า

การไหว้เจ้าเป็นธรรมเนียมประเพณีที่ลูกหลานจีน ปฏิบัติสืบทอดกันมาตามความเชื่อที่จะต้องไหว้เจ้าที่ และไหว้บรรพบุรุษเพื่อให้เป็นสิริมงคล และนำมาซึ่งความสุขความเจริญแก่ครอบครัว ในปีหนึ่งจะมีการไหว้เจ้า 8 ครั้ง คือ
- ไหว้ครั้งแรกของปี ไหว้เดือน 1 วันที่ 1 คือ ตรุษจีน เรียกว่า “ง่วงตั้งโจ่ย
– 
ไหว้ครั้งที่สอง ไหว้เดือน 1 วันที่ 15 เรียกว่า “ง่วงเซียวโจ่ย
– ไหว้ครั้งที่สาม ไหว้เดือน 3 วันที่ 4 เรียกว่า “ไหว้เช็งเม้ง” เป็นประเพณีที่ลูกหลานไปไหว้บรรพบุรุษที่ฮวงซุ้
– ไหว้ครั้งที่สี่ ไหว้เดือน 5 วันที่ 5 เรียกว่า “โหงวเหว่ยโจ่ย” เป็นเทศกาลไหว้ขนมจ้า
– ไหว้ครั้งที่ห้า ไหว้เดือน 7 วันที่ 15 คือ ไหว้สารทจีนเรียกว่า “ตงง้วงโจ่ย
– ไหว้ครั้งที่หก ไหว้เดือน 8 วันที่ 15 เรียกว่า “ตงชิวโจ่ย” ที่คนทั่วไปรู้จักกันดีว่า ไหว้พระจันทร
– ไหว้ครั้งที่เจ็ด ไหว้เดือน 11 ไม่กำหนดวันแน่นอน เรียกว่า “ไหว้ตังโจ่ย
– 
ไหว้ครั้งที่แปด ไหว้เดือน 12 วันสิ้นปี เรียกว่า ไหว้สิ้นปี หรือ “ก๊วยนี้โจ่ย

การจัดของไหว้วันตรุษจีน

- ถ้าจัดใหญ่ นิยมเป็นตัวเลข 5 คือ มีของคาว 5 อย่าง เรียกว่า “โหงวแซ” ประกอบด้วย หมู ไก่ ตับ ปลา และกุ้งมังกร แต่เนื่องจากกุ้งมังกรนั้นแพงและหาไม่ง่าย จึงนิยมไหว้เป็ดหรือปลาหมึกแห้งแทน ของหวาน 5 อย่าง เรียกว่า “โหงวเปี้ย” อาจเป็นซาลาเปาไส้หวาน ขนมไข่ ขนมถ้วยฟู ขนมกุยช่าย และขนมจันอับ ผลไม้ 5 อย่าง เรียกว่า “โหงวก้วย
- ถ้าจัดเล็ก ก็เป็นชุดละ 3 อย่าง มีของคาว 3 อย่างเรียกว่า “ซาแซ” ของหวาน 3 อย่าง เรียกว่า “ซาเปี้ย” ผลไม้ 3 อย่าง เรียกว่า “ซาก้วย” หรือจะมีแค่อย่างเดียวก็ได้

ผลไม้ที่นิยมกันมากที่ใช้ในการไหว้

  • ผลไม้ไหว้ วันตรุษจีน ส้ม เรียกว่า “ไต้กิก” แปลว่า โชคดี
  • ผลไม้ไหว้ วันตรุษจีน องุ่น เรียกว่า “พู่ท้อ” แปลว่า งอกงาม
  • ผลไม้ไหว้ วันตรุษจีน สับปะรด เรียกว่า “อั้งไล้” แปลว่า มีโชคมาหา
  • ผลไม้ไหว้ วันตรุษจีน กล้วย มีความหมายถึง การมีลูกหลานสืบสกุล

วันพุธที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2557

Y2k


Year 2000 problem

"Y2K" redirects here. For other uses, see Y2K (disambiguation).
Affected sign displaying the year 1900 instead of 2000
The Year 2000 problem (also known as the Y2K problem, the Millennium bug, the Y2K bug, or simplyY2K) was a problem for both digital (computer-related) and non-digital documentation and data storage situations which resulted from the practice of abbreviating a four-digit year to two digits. This made year 2000 indistinguishable from 1900. The former assumption that a twentieth-century date was always understood caused various errors concerning, in particular, the display of dates and the automated ordering of dated records or real-time events.
In 1997, the British Standards Institute (BSI) developed a standard, DISC PD2000-1,[1] which defines "Year 2000 Conformity requirements" as four rules:
  1. No valid date will cause any interruption in operations.
  2. Calculation of durations between, or the sequence of, pairs of dates will be correct whether any dates are in different centuries.
  3. In all interfaces and in all storage, the century must be unambiguous, either specified, or calculable by algorithm
  4. Year 2000 must be recognized as a leap year
It identifies two problems that may exist in many computer programs.
Firstly, the practice of representing the year with two digits becomes problematic with logical error(s) arising upon "rollover" from x99 to x00. This has caused some date-related processing to operate incorrectly for dates and times on and after 1 January 2000, and on other critical dates which were billed "event horizons". Without corrective action, long-working systems would break down when the "... 97, 98, 99, 00 ..." ascending numbering assumption suddenly became invalid.
Secondly, some programmers had misunderstood the rule that determines whether years that are exactly divisible by 100 are not leap years, and assumed the year 2000 would not be a leap year. Although most years divisible by 100 are not leap years, if they are divisible by 400 then they are. Thus the year 2000 was a leap year.
Companies and organizations worldwide checked, fixed, and upgraded their computer systems.
The number of computer failures that occurred when the clocks rolled over into 2000 in spite of remedial work is not known; amongst other reasons is the reluctance of organisations to report problems.[2]

วันศุกร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2557

België


เบลเยียม (อังกฤษBelgium) หรือชื่อทางการว่า ราชอาณาจักรเบลเยียม (อังกฤษKingdom of Belgium) เป็นประเทศในยุโรปตะวันตกเฉียงเหนือ มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศเนเธอร์แลนด์ เยอรมนี ลักเซมเบิร์ก ฝรั่งเศส และทะเลเหนือ เบลเยียมเป็นสมาชิกรุ่นก่อตั้งของสหภาพยุโรป และเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ เช่นเดียวกับของอีกหลายองค์กรระหว่างประเทศรวมถึงองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ
เบลเยียมมีความหลากหลายทางภาษาค่อนข้างสูง ส่งผลต่อระบบการปกครองที่ค่อนข้างซับซ้อน เบลเยียมแบ่งออกเป็นสองภูมิภาคใหญ่ ๆ ได้แก่ฟลานเดอส์ ซึ่งประชากรส่วนใหญ่พูดภาษาดัตช์ และวัลโลเนียซึ่งประชากรส่วนใหญ่พูดภาษาฝรั่งเศส บรัสเซลส์ เมืองหลวงของเบลเยียม เป็นเขตทวิภาษา ตั้งอยู่ในฟลานเดอส์ นอกจากนี้ยังมีชุมชนที่พูดภาษาเยอรมันในทางตะวันออกของวัลโลเนียด้วย 
คำว่าเบลเยียม (Belgium ในภาษาอังกฤษ België และ Belgique ในภาษาดัตช์และฝรั่งเศส) มีที่มาจาก Gallia Belgica ซึ่งเป็นจังหวัดในยุคโรมัน มีกลุ่มชาว Belgae อยู่อาศัย

ภูมิศาสตร์
ที่ราบชายฝั่งของเบลเยียม ประกอบด้วยเนินทรายจำนวนมาก
เบลเยียมมีพรมแดนติดต่อกับประเทศฝรั่งเศส (620 กม.) เยอรมนี (167 กม.) ลักเซมเบิร์ก (148 กม.) และเนเธอร์แลนด์ (450 กม.) [1] มีพื้นที่รวม 30,528 ตารางกิโลเมตร เป็นพื้นน้ำ 250 กม.² ภูมิประเทศของเบลเยียมแบ่งออกเป็นสามส่วนใหญ่ ๆ ได้แก่ที่ราบชายฝั่ง ที่ราบสูงกลาง และที่สูงอาร์แดน[2]

ภูมิประเทศ

ที่ราบชายฝั่งของเบลเยียม ประกอบด้วยเนินทรายจำนวนมาก ลึกเข้ามาในแผ่นดินเป็นที่ราบทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์และคลอง ที่สูงอาร์เดนส์เป็นเขตที่เป็นป่าหนาแน่น ยกตัวสูงขึ้นเฉลี่ย 460 เมตร อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเบลเยียม พื้นที่แถบนี้มีลักษณะเป็นหิน ไม่เหมาะกับเกษตรกรรม มีจุดที่สูงที่สุดของเบลเยียมคือซีญาลเดอบอทร็องฌ์ (Signal de Botrange) สูง 694 เมตร
แม่น้ำสายหลักของเบลเยียมได้แก่ แม่น้ำแอ็สโก (Escaut) และแม่น้ำเมิซ (Meuse) ซึ่งมีต้นน้ำอยู่ที่ฝรั่งเศส แม่น้ำแอ็สโกเป็นแม่น้ำสายหลักของเบลเยียม ผ่านท่าเรือแอนต์เวิร์ป บรัสเซลส์ และเกนต์
ภูมิอากาศ
ภูมิอากาศชายฝั่งทะเลมีลักษณะชื้นและไม่รุนแรงนัก ในขณะที่ลึกเข้ามาในพื้นทวีปอุณหภูมิจะมีช่วงความเปลี่ยนแปลงสูงกว่า ในเขตที่สูงอาร์เดนส์มีฤดูร้อนที่ร้อนสลับกับฤดูหนาวที่หนาวเย็น ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยต่อเดือนในบรัสเซลส์ อยู่ระหว่าง 55 มิลลิเมตร ในเดือนกุมภาพันธ์ จนถึง 78 มิลลิเมตรในเดือนกรกฎาคม[3] ในขณะที่อุณหภูมิเฉลี่ยของบรัสเซลส์อยู่ที่ 15-18 องศาเซลเซียสในเดือนมิถุนายนถึงกันยายน และลงต่ำอยู่ที่ 3 องศาในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์[4] จากรายงานของสหประชาชาติในปีพ.ศ. 2546 คุณภาพน้ำในแม่น้ำของเบลเยียมอยู่ในระดับต่ำสุดจากทั้งหมด 122 ประเทศ[5]

ประวัติศาสตร์
-ยุคก่อนประวัตืศาสตร์
มีหลักฐานการดำรงอยู่ของชุมชนโบราณมานานมากกว่า 2,000 ปีโดยขุดพบโครงกระดูกมนุษย์และภาพเขียนโบราณในถ้ำตอนกลางของประเทศริมฝั่งแม่น้ำเมิซ(la Meuse)
ในปีพ.ศ. 600 จูเลียส ซีซาร์ขยายอำนาจของจักรวรรดิโรมันมายังดินแดนเบลเยียมปัจจุบัน โดยเอาชนะชนเผ่าเคลต์ที่ชื่อเบลไก (Belgae) และก่อตั้งเป็นมณฑลแกลเลียเบลจิกา ต่อมาในช่วงพุทธศตวรรษที่ 10 ดินแดนแถบนี้ก็ตกไปอยู่ในการควบคุมของชนเผ่าแฟรงก์ ก่อตั้งราชวงศ์เมรอแว็งเฌียง[6] พระเจ้าโคลวิสที่ 1 ทรงรับคริสต์ศาสนาเข้ามาสู่อาณาจักร หลังจากยุคของโคลวิสแล้ว อาณาจักรของพวกแฟรงก์ก็เริ่มแตก จนกระทั่งถึงยุคของพระเจ้าชาร์เลอมาญ ซึ่งครองราชย์ตั้งแต่ปีพ.ศ. 1311 จนถึง 1357 ซึ่งได้รวบรวมอาณาจักรแฟรงก์ ปกครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของยุโรป

ยุคกลาง[แก้]

หลังจากพระเจ้าชาร์เลอมาญสิ้นพระชนม์ อาณาจักรก็ถูกแบ่งออกเป็นส่วน ๆ พื้นที่ส่วนใหญ่ของเบลเยียมปัจจุบันเป็นของพระเจ้าโลแทร์ ซึ่งปกครองอาณาจักรกลาง ในขณะที่ส่วนที่เหลือตกเป็นของฝรั่งเศส อาณาจักรกลางภายหลังตกไปอยู่ภายใต้กษัตริย์เยอรมันของอาณาจักรตะวันออก ดินแดนเบลเยียมถูกแบ่งออกเป็นรัฐขุนนางเล็ก ๆ จำนวนมาก ซึ่งต่อมารวบรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของเบอร์กันดี หลังจากการอภิเษกสมรสของพระนางแมรีแห่งเบอร์กันดีกับเจ้าชายมักซิมิลันจากราชวงศ์ฮับส์บูร์ก ซึ่งต่อมาขึ้นเป็นจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ดินแดนเบลเยียมซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเนเธอร์แลนด์ได้ตกทอดไปถึงพระเจ้าชาลส์ที่ 1 แห่งสเปน พระนัดดาของพระเจ้ามักซิมิลัน
ในรัชสมัยของพระเจ้าเฟลิเปที่ 2 แห่งสเปน พระราชโอรสของพระเจ้าชาลส์ ได้เกิดความขัดแย้งทางศาสนาระหว่างนิกายโรมันคาทอลิกและนิกายโปรเตสแตนต์ โดยพระเจ้าเฟลิเปพยายามที่จะปราบปรามนิกายโปรเตสแตนต์ ดินแดนทางตอนเหนือ ซึ่งสนับสนุนนิกายโปรเตสแตนต์ รวมตัวกันเป็นสาธารณรัฐเนเธอร์แลนด์ ในขณะที่ดินแดนทางใต้ ประกอบด้วยเบลเยียมและลักเซมเบิร์กในปัจจุบัน ยังอยู่ภายใต้การปกครองของสเปน เรียกชื่อว่าเนเธอร์แลนด์ใต้
ต่อมา ฝรั่งเศสได้ขึ้นเป็นมหาอำนาจในยุโรป พื้นที่ประเทศต่ำได้เป็นสนามรบ เบลเยียมได้เปลี่ยนมือไปยังออสเตรีย จนกระทั่งหลังการปฏิวัติฝรั่งเศส สาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 1ได้ยึดเบลเยียมในปีพ.ศ. 2338 ยุติการปกครองของสเปนและออสเตรียในบริเวณนี้ หลังจากการสิ้นสุดของจักรวรรดิฝรั่งเศสของนโปเลียน กลุ่มประเทศต่ำได้รวมกันอีกครั้งเป็นสหราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ในปีพ.ศ. 2358

วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

มารยาทที่ควรรู้ของต่างประเทศ

 ที่อเมริกา อย่าเรียกธรรมเนียมเลยน่ะ เรียกมารยาทที่พบเห็นบ่อยๆจะดีกว่า
๑. ถ้าเข้าประตูก่อนและเห็นมีคนตามหลังมา เขาจะถือประตูค้างไว้ให้คนข้างหลังเข้ามาด้วย
๒. ผู้ชายให้เกียรติผู้หญิง เด็ก คนแก่ไปก่อนหรือเข้าประตูก่อนเสมอ เคยเห็นที่เมืองไทยวันนั้นฝนตกปรอยๆ หนุ่มสาวเรียกแท็กซี่พอจอดปุ๊ป พ่อหนุ่มเปิดประตูเข้าไปนั่งก่อนเลย สาวเจ้าต้องเปียกฝนเล็กน้อยก่อนเข้าไปตามหลัง และยังเห็นบ่อยๆ ผู้ชายแย่งผู้หญิงขึ้นลิฟท์ในสนง. ดูน่าเกลียดมาก
๓. มารยาทในการจดจำชื่อ ซึ่งตัวผมมีปัญหามากมายเพราะรู้จักเพื่อนฝรั่งเยอะ บางคนนานๆเจอทีแบบบังเอิญก็จำชื่อเขาไม่ได้ ซึ่งเสียมารยาทมากต้องปรับปรุง
๔. การต่อแถว ต่อคิว ผมเห็นที่เมืองไทยตอนไปซื้อข้าวกินที่ฟูดคอร์ทในศูนย์การค้า ใครตะโกนใส่หน้าแม่ค้าได้ก่อนหรือเสียงดังกว่า ได้ข้าวกินก่อน เป็นงง
๕. มารยามในการพูดคุยโดยเฉพาะบนโตะอาหารควรหลีกเลี่ยงเรื่องลามก หยาบคาย สกปรก หรือดูถูกคนอื่น
๖. มารยาทในการรู้จักเงียบ รู้จักปิดเสียงโทรศัพท์ในสถานที่เช่นโรงภาพยนต์หรือโรงละคร แม้กระทั่งในร้านอาหารซึ่งหากต้องคุยโทรศัพท์ก็ควรเดินออกมานอกร้าน
๗.มารยาทในการเกา แคะ แทะ ล้วง ปาก หู ตา คอ จมูก และทวารทั้งหลายในที่สาธารณะ เห็นบ่อยๆในเมืองไทย สาวๆนั่งแคะจมูก มันส์มาก ผมเกือบจะไปเสนอนิ้วให้ยืมแคะแล้ว แหม ดูแล้วหมดราคา

วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2557

ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการเรือ ล่มที่เกาหลี




เหตุเรือล่มเกาหลีที่บัดนี้ผ่านพ้นวันเกิดเหตุมาเกือบครบหนึ่งสัปดาห์แล้ว แต่การค้นหาร่างของผู้สูญหายจากเหตุเรือล่มเกาหลีก็ยังไม่สิ้นสุดลง เพราะยังมีผู้สูญหายอีกนับร้อยชีวิต ในขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตได้พุ่งเป็น 64 รายแล้ว
จากข่าวเรือล่มเกาหลี มีการเปิดเผยว่าศพของผู้เสียชีวิตรายหลังๆ นี้ มีสภาพอันน่าสลดใจ คือ เล็บของผู้เสียชีวิตหลุดล่อนออกมา ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดจากการที่เหยื่อพยายามตะกุยตะกายผนังเรือเพื่อเอาชีวิตรอด

ทั้งนี้ สำหรับตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่ 64 ราย โดยจำแนกเป็นชาย 37 ราย และหญิง 27 ราย ส่วนครอบครัวผู้เสียชีวิตตอนนี้ก็ได้มีการต่อคิวกันเพื่อให้แพทย์เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอไปใช้ในการระบุตัวตนของศพที่กู้ออกมาจากเรือได้
     
korea01
เรือล่มเกาหลีใต้ ความคืบหน้าล่าสุด เรือเฟอร์รี่เซวอล ล่มนอกชายฝั่งเกาหลีใต้ ดับแล้ว 9 ราย สูญหายอีก 287 ราย กู้ภัยชี้ที่เหลือรอดยาก เพราะอุณหภูมิ 12 องศา มีสติอยู่ในน้ำได้แค่ 2 ชม. ก่อนร่างกายจะเกิดอาการช็อก
วันที่ 17 เมษายน 2557 สื่อต่างประเทศรายงานความคืบหน้าเหตุการณ์เรือเฟอร์รี่ “เซวอล” ที่ขนผู้โดยสาร 475 ชีวิต จากเมืองอินชอนไปเกาะเชจู ระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร แต่เรือเกิดอับปางลงหลังจากออกจากชายฝั่งได้ประมาณ 20 กิโลเมตร เมื่อเวลา 09.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือประมาณ 07.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ของวันที่ 16 เมษายน ที่ผ่านมา
รายงานระบุว่า ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นนักเรียนมัธยมปลายซึ่งกำลังเดินทางทัศนศึกษาที่เกาะเชจู ล่าสุด มีผู้เสียชีวิต 9 ราย ส่วนผู้สูญหายยอดอยู่ที่ 287 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถช่วยชีวิตไว้ได้ 179 ราย ซึ่ง ในขณะเกิดเหตุนั้น เรือเฟอร์รี่ขนาดใหญ่ น้ำหนัก 625 ตัน ได้เอียงและค่อย ๆ จมลงในทะเลที่อากาศหนาวเย็น อุณหภูมิ 12 องศาเซลเซียส โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยระบุว่า ผู้โดยสารที่ตกอยู่ในน้ำนั้นจะมีสติอยู่ได้ไม่เกิน 2 ชั่วโมง ก่อนที่ร่างกายจะเกิดอาการช็อก เพราะฉะนั้นผู้โดยสารที่ยังไม่ทราบชะตากรรม โอกาสรอดค่อนข้างน้อย
ด้านเจ้าหน้าที่กู้ภัยรายหนึ่ง เปิดเผยกับ Yonhap News สื่อท้องถิ่นของเกาหลีใต้ ว่า ยอดผู้เสียชีวิตที่ยืนยันได้ขณะนี้อยู่ที่ 6 ราย เป็นนักเรียน และลูกเรือผู้หญิง เชื่อว่าเป็นไปได้น้อยมากที่จะมีคนรอดจากซากเรือที่จมลงก้นทะเล เพราะการมีชีวิตรอดอยู่กลางทะเลในอุณหภูมิ 12 องศาเซลเซียส เป็นไปได้ยาก อีกทั้งก่อนหน้านี้นักประดาน้ำไม่สามารถเข้าถึงเรือเซวอลได้ เพราะน้ำเชี่ยว อีกทั้งทะเลก็ขุ่น เพราะพื้นเป็นดินโคลน
“ผมเกรงว่าโอกาสรอดน้อยมากสำหรับคนที่ติดอยู่ในซากเรือ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว” เจ้าหน้าที่กู้ภัยอาวุโส เผยกับสื่อท้องถิ่น
ด้านทางการของเกาหลีใต้ เร่งค้นหาผู้รอดชีวิตอย่างสุดความสามารถตลอดทั้งคืน โดยมีการระดมเรือจากกองทัพ เรือพาณิชย์ เฮลิคอปเตอร์ รวมถึงนักประดาน้ำ เพื่อค้นหาผู้ติดอยู่ในเรือ ซึ่งมีการจุดพลุใต้น้ำเพื่อช่วยในการค้นหาด้วย เพราะจะรอช้าไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว
ขณะที่ผู้โดยสารที่รอดชีวิตรายหนึ่ง เผยถึงเหตุการณ์ระทึกขวัญว่า “ในระหว่างเกิดเหตุลูกเรือคนหนึ่งได้เตือนว่า ห้ามทุกคนขยับไปไหนให้อยู่กับที่ ทันใดนั้น เรือก็เอนไปอีกข้าง โดยไม่ทันได้เคลื่อนย้าย หรือแจ้งเตือนให้อพยพอะไรเลย”
ทางด้าน ปาร์ค กึน เฮ ผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์สลดครั้งนี้ว่า รู้สึกเจ็บปวดที่นักเรียนและครูต้องมาเผชิญกับโชคชะตาอันเลวร้ายเช่นนี้
“ผม รู้สึกเจ็บปวดและเศร้าใจมาก ๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งคงไม่มีใครอยากให้เกิด ผมอยากฝากให้ทีมกู้ภัยเร่งค้นหานักเรียนและผู้รอดชีวิตอย่างสุดความสามารถ”

korea02korea03korea04korea05korea06korea07korea08sewolsewol2sewol4sewol5sewol6
————————–
Source : kapook
Fanthai -media-
7
 
0
 
0
 
27
 
Rate this
- See more at: http://fanthai.com/?p=98143#sthash.mDVX1alo.dpuf

วันพฤหัสบดีที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2557

ประเทศฝรั่งเศส


ประเทศฝรั่งเศส

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก ฝรั่งเศส)
สาธารณรัฐฝรั่งเศส
République Française (ฝรั่งเศส)
ธงชาติตราแผ่นดิน
คำขวัญLiberté, Égalité, Fraternité
("เสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ")
เพลงชาติลามาร์แซแยซ
ที่ตั้งของ ประเทศฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่ (เขียวเข้ม) ในทวีปยุโรป (เขียวอ่อนและเทาเข้ม) ในสหภาพยุโรป (เขียวอ่อน)
ที่ตั้งของ ประเทศฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่ (เขียวเข้ม)
ในทวีปยุโรป (เขียวอ่อนและเทาเข้ม)
ในสหภาพยุโรป (เขียวอ่อน)
ดินแดนของฝรั่งเศสทั่วโลก
ดินแดนของฝรั่งเศสทั่วโลก
เมืองหลวง
(และเมืองใหญ่สุด)
ปารีส
48°51′N 2°20′E
ภาษาทางการภาษาฝรั่งเศส
การปกครองสาธารณรัฐเดี่ยว กึ่งประธานาธิบดี
 - ประธานาธิบดีฟร็องซัว ออล็องด์
 - นายกรัฐมนตรีฌ็อง-มาร์ก เอโร
การสร้างชาติ
 - รัฐฝรั่งเศสพ.ศ. 1386 (สนธิสัญญาแวร์เดิง
 - ปัจจุบันพ.ศ. 2501 (สาธารณรัฐที่ 5
เข้าร่วมสหภาพยุโรป25 มีนาคม พ.ศ. 2500
พื้นที่
 - รวม632,834 ตร.กม. (43)
213,011 ตร.ไมล์ 
 - แหล่งน้ำ (%)?
ประชากร
 - 2550 (ประเมิน)64,102,1401 (20)
 - ความหนาแน่น112 คน/ตร.กม. (68)
290.1 คน/ตร.ไมล์
จีดีพี (อำนาจซื้อ)2548 (ประมาณ)
 - รวม1.871 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (7)
 - ต่อหัว30,100 ดอลลาร์สหรัฐ (24)
HDI (2546)0.942 (สูง) (16)
สกุลเงินยูโร2 (EUR)
เขตเวลาCET (UTC+13)
 - (DST)CEST (UTC+23)
โดเมนบนสุด.fr
รหัสโทรศัพท์33
หมายเหตุ 1:
หมายเหตุ 2: ดินแดนโพ้นทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกใช้ฟรังก์ซีเอฟพี
3เฉพาะฝรั่งเศสภาคพื้นทวีปยุโรปเท่านั้น
ฝรั่งเศส (ฝรั่งเศสFrance) หรือ สาธารณรัฐฝรั่งเศส (ฝรั่งเศสRépublique Française) เป็นประเทศที่มีศูนย์กลางตั้งอยู่ในภูมิภาคยุโรปตะวันตก ทั้งยังประกอบไปด้วยเกาะและดินแดนอื่น ๆ ในต่างทวีปประเทศฝรั่งเศสแผ่นดินใหญ่ทอดตัวตั้งแต่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจนถึงช่องแคบอังกฤษและทะเลเหนือ และจากแม่น้ำไรน์จนถึงมหาสมุทรแอตแลนติก ชาวฝรั่งเศสมักเรียกแผ่นดินใหญ่ว่า หกเหลี่ยม (L'Hexagone) เนื่องจากรูปทรงทางกายภาพของประเทศ ประเทศฝรั่งเศสปกครองด้วยระบอบกึ่งประธานาธิบดี โดยยึดอุดมการณ์จากปฏิญญาว่าด้วยสิทธิของมนุษย์และของพลเมือง
ประเทศฝรั่งเศสมีพรมแดนติดกับประเทศเบลเยียม ลักเซมเบิร์ก เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี โมนาโกอันดอร์ราและสเปน และเนื่องจากประเทศฝรั่งเศสมีดินแดนโพ้นทะเลไว้ในครอบครอง ทำให้มีอาณาเขตติดกับประเทศบราซิลและซูรินาเม (ติดกับเฟรนช์เกียนา) และเนเธอร์แลนด์แอนทิลลิส (ติดกับแซ็ง-มาร์แต็ง) อีกด้วย นอกจากนั้นประเทศฝรั่งเศสยังเชื่อมกับสหราชอาณาจักรทางอุโมงค์ช่องแคบอังกฤษอีกด้วย
ประเทศฝรั่งเศสเคยเป็นหนึ่งในประเทศมหาอำนาจของโลกตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 17 เป็นต้นมา ในคริสต์ศตวรรษที่ 18 และ 19 จักรวรรดิฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในประเทศจักรวรรดินิยมที่มีอาณานิคมในครอบครองมากที่สุดในโลก แผ่อาณาเขตตั้งแต่แอฟริกาตะวันตกจนถึงเอเชียอาคเนย์ ซึ่งเห็นได้ชัดจากอิทธิพลทางวัฒนธรรม ภาษาและการเมืองการปกครองของดินแดนนั้น ๆ ประเทศฝรั่งเศสถูกจัดให้เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วและมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 6 ของโลก ประเทศฝรั่งเศสยังเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดในโลกอีกด้วย โดยมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกว่า 82 ล้านคนต่อปี ประเทศฝรั่งเศสเป็นประเทศผู้ก่อตั้งสหภาพยุโรปและมีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มประเทศอีกด้วย ประเทศฝรั่งเศสยังเป็นประเทศผู้ก่อตั้งสหประชาชาติ เป็นสมาชิกประชาคมผู้ใช้ภาษาฝรั่งเศสโลก จีแปด นาโต้และสหภาพละติน ประเทศฝรั่งเศสยังเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์ที่มีหัวรบนิวเคลียร์กว่า 360 หัวรบและเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 59 แห่ง